Payment Gateway Ep.1

payment gateway มันคือระบบหรือบริการชำระเงินรูปแบบนึงที่ใช้กันบนเว็บทั่วไป ผู้ใช้งานทั่วไปจะไม่รู้จักก็ไม่แปลก เพราะมันเป็นระบบที่อยู่เบื้อหลังของการชำระเงินออนไลน์เช่น เว็บขายของออนไลน์ที่เราใช้กันบ่อยๆ หรือเวลาที่เราซื้อของที่ร้านค้าแล้วจ่ายด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต มันก็คือ payment gateway นี้แหละ ใกล้ตัวเข้ามาอีกหน่อยก็คือการสแกนจ่ายเงินด้วยระบบพร้อมเพย์

สมมุติว่าเราสร้างเว็บขายของหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ต้องมีการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้า เราก็ต้องใช้ payment gateway นี้แหละ

เนื้อหา

• เนื้อหา
• แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
• ประเภทของการชำระเงิน
• ช่องทางการชำระเงิน
• ประเภทของการ์ด
  • แบ่งตามขอบเขตการใช้
  • แบ่งตามลักษณะ
• มันทำงานยังไง
• เทคโนโลยีการตรวจสอบสิทธิ์การใช้งาน Credit / Debit card

แบ่งออกเป็น 2 ประเภท

• Payment Gateway Bank คือก็ตรงตามชื่อเลย ธนาคารเป็นผู้ให้บริการโดยตรง พอมีหลายธนารคาร แล้วถ้าเราเปิดร้านค้าเองจะใช้ของธนาคารไหนดี แต่ละธนาคารก็มีจุดขายต่างกัน ราคาก็ต่างกันนะเออ เชื่อต่อยากง่าย รับชำระได้กี่แบบ บลาๆ

• Payment Gateway Non-Bank คือผู้ให้บริการที่ไม่ใช้ธนาคารโดยตรง เช่น Omise, digipay การใช้งานค่อนข้างง่าย มีข้อจำกัดในการสมัครใช้งานน้อยกว่า ราคาอาจจะถูกกว่าด้วยนะ

ประเภทของการชำระเงิน

รูปแบบการชำระเงิน เมื่อเราซื้อของแล้วต้องจ่ายเงิน เราจะจ่ายแบบไหน โดยปกติก็จ่ายด้วยเงินสด ซื้อของราคา 100 บาท ก็ต้องจ่ายเต็ม 100 บาท แบบนี้จะเรียนว่าการจ่ายเงินเต็มจำนวน

• Credit Card Full Payment คือการใช้บัตรเครดิดจ่ายเงินแบบเต็มจำนวนคล้ายจ่ายเงินสดเลย
• Credit Card Installment คือการผ่อนชำระเป็นงวดๆ เช่น ซื้อของ 6000 บาท จ่าย 10 เดือน ก็ตกเงินละ 600 บาท
• QR PromptPay คือที่เราคุ้นเคยกันดีนี้แหละ สแกนจ่ายตามร้านค้า ร้านอาหารทั่วไป ชอบมาก 5 บาทก็โอนได้
• QR Card Scheme คืออันนี้ไม่คุ้นเลย ลองหามาได้ประมาณว่า เป็นการชำระเงินด้วยการ สแกน qr นี้แหละ แต่ว่าจะหักยอดเงินจากบัตรเครดิตที่เราเลือกว่าจะหักจากบัตรใบไหน เหมือนเราใช้บัตรเครดิตเลย

ช่องทางการชำระเงิน

ช่องทางการชำระเงิน ในปัจจุบันมีให้ใช้หลายแบบ แต่ละแบบก็ต่างกันออกไป ในมุมของร้านค้าก็จะมองว่าลูกค้าจะใช้ช่องทางไหนบ้าง ถึงจะขายของได้ บางอันก็มีค่าบริการ บางอันก็ใช้ฟรี แล้วแต่ความเหมาะสม แล้วแต่ลูกค้าเลย อย่างเช่น EDC รับแบบผ่อนชำระรายเดือนได้แบบอื่นทำไม่ได้

• EDC (Electronic Data Capture) คือเครื่องรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและเดบิต แต่บางเครื่องก็รับ QR PromptPay ได้ด้วย จะเห็นได้ตามห้าง ร้านค้าใหญ่ๆ แต่ก็เริ่มมีให้เห็นได้ทั่วไปแล้วเช่น บนรถเมย์ในกรุงเทพ สำนักงานขนส่งหลายๆที่ก็มีให้ใช้ ไปรณีไทยก็มีให้เห็นแล้วนะ
• Mobile Banking คือแอพพลิเคชั่นบนมือถือของเรานี้แหละ เป็นแอพที่ต้องมีติดเครื่องเอาไว้ใช้กดเงินไม่ต้องพกบัตรได้ด้วยชอบมากเลย
• QR Payment คือการชำระเงินด้วยการสแกนอย่างเช่น PromptPay, Alipay, WeChat Pay

ประเภทของการ์ด

สามารถแบ่งออกได้หลายวิธีเช่น แบ่งตามขอบเขตการใช้ แบ่งตามลักษณะ

แบ่งตามขอบเขตการใช้

• International Credit Card คือประเภทของบัตรเครดิตที่เราคุ้นเคยกันดี สามารถใช้ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น Visa, MasterCard, American Express
• Local Credit Card คือบัตรเครดิตที่ใช้ได้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น โดยผู้ออกบัตรคือสถาบันการเงินหรือธนาคารในประไทย
• Store Card หรือ Private Label Card คือบัตรเครดิตที่ใช้ได้เฉพาะร้านของผู้ออกบัตรเท่านั้น คล้ายกับการสะสมแต้มเลย

แบ่งตามลักษณะ

• Visa
• MasterCard
• JCB
• UnionPay

หลายๆคนอาจจะอ่านแล้วงง Credit กับ Debit ให้อธิบายสั้นก็คือ

Credit = แต้ม ไม่ใช่เงินจริงๆ

Debit = เงินในบัญชีจริงๆ

มันทำงานยังไง

แล้วมันทำงานยังไง ระบบจริงๆแล้วจะต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ แต่หลักการของมันก็ไม่ต่างกันมาก ตัวอย่างเช่น ลูกค้าซื้อสินค้า => จ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต => ที่เครื่อง EDC ระบบก็ต้องรู้ละว่าลูกค้าชำระเงิน เท่าไหร่ แล้วใครเป็นผู้รับเงินนี้

1. Card Holder ผู้ถือบัตร
2. Merchant ร้านค้า
3. Payment Gateway ช่องทางการชำระเงิน
4. Acquiring Bank ธนาคารผู้รับเงิน
5. International Payment System ระบบชำระเงินระหว่างประเทศ
6. Issuing Bank ธนาคารผู้ออกบัตร

เทคโนโลยีการตรวจสอบสิทธิ์การใช้งาน Credit / Debit card

• Redirect Payment คือตัวเลือกนึงของระบบชำระเงิน ตอนทำรายการเช่นซื้อของออนไลน์จะแสดงหน้าจอที่ให้ลูกค้ากรอกเลขบัตร
• Direct Payment คือการทำรายการแบบไม่ต้องกรอกเลขบัตรบนหน้าเว็บ ส่งข้อมูลบัตรไปทาง api ตรงๆเลย
• 3DS (3-D Secure) คือโครงสร้างความปลอดภัยการชำระเงินธุรกรรมออนไลน์เช่นใช้ OTP
• Non3DS (Non 3-D Secure) คือไม่ต้องใช้ OTP ทางผู้ให้บริการหรือ payment gateway ต้องได้รับใบอนุญาต
• 3D Secure 2.0 คือการยืนยันสิทธิ์การใช้งานรูปแบบนึง โดยไม่ใช้ OTP แต่จะใช้อย่างอื่นแทนเช่น ข้อมูลทางชีวภาพ (Biometrics) เพราะการใช้ OTP ทำให้เกิดรายการที่ไม่สำเร็จบ่อย